ผมจะขอใช้เนื้อที่ของบทความนี้กล่าวต้อนรับเด็กใหม่เสียหน่อย ใครน่ะเหรอก็คนที่เพิ่งย้ายมาตอนซัมเมอร์นั่นไง และก็กล่าวถึงบัตตี้ผู้ซึ่งถูกเลหลังออกไป
ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น แล้วมันก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในสโมสร ถึงแม้ว่าฤดูกาล 2003-2004 จะไม่ค่อยน่าพึงพอใจเท่าไหร่นัก แต่ในระหว่างซัมเมอร์นี้ท่านเซอร์ ของเราก็ได้กำจัดจุดอ่อนออกไปได้บ้างแล้ว ผมยังจำได้เลยว่าท่านเซอร์ ของเราได้ตั้งข้อสังเกตุถึงฟอร์มของ อาเซนอล เมื่อฤดูกาลที่แล้วไว้ และก็นักเตะที่พวกเขาเซ็นสัญญาเข้ามาใหม่ด้วยผมยังไม่ได้เห็นฟอร์มของ ไฮน์เซ่ มากนัก ในส่วนตัวผมว่าเขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่องคนหนึ่ง ส่วน อลัน สมิธ ผมว่าในเกมเขาก็ค่อนข้างจะแกร่ง แต่บางครั้งแกร่งมากจนกลายเป็นว่าค่อนข้างก้าวร้าว แต่ในทางกลับกันถ้าเรามองในอีกแง่การเข้ามาในสโมสรของสมิธตี้ ก็เหมือนมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป การฝึกซ้อมอย่างหนักของเขาทำให้เขา มีทักษะที่วิเศษสุดๆ
ผมค่อนข้างที่จะเห็นด้วยกับ อลัน นะที่ท่านเซอร์ วางเขาเป็นหน้าสูง นั่นทำให้เขาสามารถดึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่ผมก็ต้องโบกมืออำลาผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่างบัตตี้ คิดๆ แล้วน่าเสียดายนะที่เขาจากไป เพราะเขาเป็นนักเตะที่เยี่ยมมากๆ ในสายตาของพวกเรา และสาลิกาดงด้วย นิวคาสเซิ่ลดูน่ากลัวขึ้นเมื่อมีมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษวัย 29 คนนี้ ผู้ที่มีค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ แต่ในด้านระยะยาวนั้นบัตตี้ ก็เป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และก็สมาชิกใหม่ที่เพิ่งถวายตัวเป็นเด็กผีเมื่อไม่นานมานี้อย่าง เลียม มิลเลอร์, เคล็บแบร์สัน และเฌมบ้า ที่จะต้องเร่งพัฒนาฝีเท้าให้ขึ้นมาเติมเต็มในตำแหน่งนี้โดยเร็วที่สุด
ส่วนผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ก็ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ห่างไกลจากคำว่าพอใจมากส่วนในรายของหนูโด้นั้นเฟอร์กี้ บอกว่าหนูโด้ได้รับความผิดหวังอย่างแรงในโอลิมปิก และเขาก็มั่นใจว่าหนูโด้จะเป็นคนที่พาพวกเรากลับเข้าฝั่งหลังจากออกทะเลไปนาน หากกลับมาเขาก็จะเริ่มเล่นในทันทีเพราะเขารักการเล่นฟุตบอล ยังจำได้เมื่อตอนผมขึ้นมาชุดใหญ่ใหม่ๆ ผมลงเล่นในศึก ดิวิชั่น 1 บ่ายวันเสาร์ ทีมเยาวชนเลกแรกในวันจันทร์ ทีมชาติในวันพุธ และก็ต้องมาผิดหวังเมื่ออาทิตย์ต่อไปไม่มีการแข่งขันในวันเสาร์ โชคยังดีที่ผมมีสถิติที่ดีตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้ง
ย้อนมาดูคู่แข่งในพรีเมียร์ของเราบ้างผมว่า อาร์เซนอล จะยิ่งใหญ่ไม่ได้ถ้าขาด วิเอร่า ขณะที่ เชลซี มีการปรับทัพอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงซัมเมอร์ ผมยังไม่เคยเห็นฟอร์มของดร็อกบา (ตอนนี้คงได้เห็นแล้ว) แต่สำหรับ 24.5 ล้านปอนด์ เขาต้องไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดาอย่างแน่นอน และ13 ล้านปอนด์ สำหรับ เปาโล เฟอร์ไรร่า จากปอร์โต้ จนทำให้ปอร์โต้ ต้องจำใจควักเงินซื้อฟูลแบ็กตัวใหม่อย่าง ไซตาริดิส จากกรีซ มาแทนเขา
ทาง ลิเวอร์พูล เริ่มมีความหวังมากขึ้นเมื่อเจอร์ราดตัดสินใจอยู่ต่อ ประกอบกับได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ ทำให้หลายๆ สิ่งในสโมสรดูดีขึ้นมันน่าสนใจตรงที่ว่าต้องจับตาดูคู่ เชียร์เรอร์ – ไคลเวิร์ท ของสาลิกาดง ไว้ให้ดี ไคลเวิร์ท ดูเหมือนกับว่าเป็นคนมากอบกู้สถานการณ์ของสาลิกา หลังปู่บ็อบอำลาทีมไป ส่วนทีมม้ามืดผมชี้ลงไปที่ มิดเดิ้ลสโบรซ์ พวกเขาซื้อตัวใหม่ๆ มาหลายคนถ้าพวกนี้เล่นเข้าขากันเมื่อไหร่ล่ะก็น่ากลัวเลยทีเดียว
ส่วนท็อปโฟร์ทีมในตารางพรีเมียร์ลีก หลังจบฤดูกาลผมคิดว่าจะออกมาอย่างนี้
1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
2. เชลซี
3. อาร์เซนอล
4. มิดเดิ้ลสโบรซ์
extreme red fox
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC